ก้าวที่กล้าของ "มาดามแป้ง" นารีขี่ม้าขาวชิงนายกฯ เพื่อกู้วิกฤต


“แป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยและประธานสโมสรการท่าเรือ

เอฟซี ย้ำชัดจะเป็นนายกสมาคมฟุตบอลไทยแน่นอน


ต้องบอกเลยว่าช่วงที่ผ่านมามีกระแสในหมู่แฟนคลับและคนในวงการมองว่า “น้องแป้ง” นักธุรกิจสาวผู้รักกีฬาฟุตบอล รับตำแหน่งนายกสมาคม "นารีขี่ม้าขาว" กอบกู้วิกฤตบอลไทย


“น้องแป้ง” บอกตรง ๆ ตัดสินใจไม่ง่าย จากหลายสาเหตุที่เคยกล่าวไว้ว่าสองครอบครัวกังวลเรื่องสุขภาพและภาระงานที่รัดตัวแต่เมื่อบอลไทยมีปัญหาก็ต้องมีคนแสดงตัว เสียสละเวลาและทรัพยากรที่มีเพื่อลงมาทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด “แป้งเชื่อในความตั้งใจจริงและยินดีรับภาระดังกล่าว”


เบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้ หญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลไทย เล่าว่า เมื่อไม่กี่วันก่อน "พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" ได้เชิญตนไปพูดคุย ต้องการรับมือเนื่องจากอายุมากแล้วและต้องการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้เราช่วยบริหารสมาคม จึงขอและสนับสนุนให้ลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี


หลายเดือนมานี้ยังมีผู้หวังดีจากในและนอกวงการฟุตบอลโทรมาพูดคุยสอบถามเกลี้ยกล่อมให้ตัดสินใจบริหารบอลไทยอย่างเต็มตัวจะให้กำลังใจและสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกด้าน นี่คือเหตุผลสำคัญที่ “น้องเผิง” ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง


ถือเป็น "ก้าวที่กล้าได้กล้าเสีย" สำหรับนางสาวเผิง เมื่อพิจารณาจากสถานะของฟุตบอลในประเทศไทย หลังจากวิกฤตโควิด-19 เราเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และวิกฤตความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรม


ยกตัวอย่างที่เห็นในยุคนั้น "นายพลสมิต" ทำเอาแฟน ๆ ส่ายหัว "ใครไม่อาย ผมก็อาย" แน่นอนว่าการรอให้ Baima Nalei มาช่วยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เขารู้ว่าสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนในตอนนี้คือความมั่นใจที่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มรายได้และการมองเห็นและกลับมาสู่วงการฟุตบอลไทยอีกครั้ง


เนื่องจากขณะนี้โครงการพัฒนาฟุตบอลหลายโครงการหยุดชะงัก บรรดาทีมสนับสนุนตัดเงินสปอนเซอร์, ตัดสิทธิ์การประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด, แหล่งรายได้หลักสำหรับองค์กรปกครองฟุตบอลทั่วโลก, ไม่มีข้อตกลงใด ๆ


สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณภาพการบริหารทีมลดลงได้ ประสิทธิภาพการลดเงินอุดหนุนจะลดลง ความนิยมของแฟนคลับก็จะลดลงตามไปด้วย ทีมเล็กไปต่อไม่ได้ ทีมใหญ่ยังเหนื่อย ถึงจุดที่ต้องช่วยตัวเองแล้ว การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ด้วยความเจ็บปวดน้อยที่สุด


ในการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ "คุณเผิง" เชื่อว่าด้วยประสบการณ์และผู้สนับสนุน การกล่าวถึงเป็นพิเศษของประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด "เนวิน ชิดชอบ" และประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด "ปวิณ ภิรมย์ภักดี" จะช่วยในการตัดสินใจครั้งนี้ได้ การตัดสินใจที่สำคัญได้รับการสนับสนุนจากทุกด้าน ทั้งกำลังใจ ความคิดเห็น แนวคิดในการแก้ปัญหา และแนวคิดในการพัฒนาวงการฟุตบอล ที่สำคัญคือทั้งคู่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลมาก


ถึงตอนนี้คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่า “น้องแป้ง” รักกีฬาฟุตบอลมากแค่ไหน ตลอด 16 ปีของ "น้องแป้ง" วอร์มเพลทและฟุตบอล ตั้งแต่ปี 2551 ตามคำเชิญของนายกสมาคมฟุตบอลไทยในขณะนั้น "วรวีร์ มะกูดี" เขาเข้ามาทำงานในสมาคมฟุตบอลไทยและเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงทีมชาติ


“น้องแป้ง” ทุ่ม 12 ปีพาทีมฟุตบอลหญิงไทยสู่สังเวียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในระดับอาเซียน เอเชีย หรือระดับโลก ฟุตบอลโลก 2015 ที่แคนาดา และฟุตบอลโลก 2019 ที่ฝรั่งเศส ทำให้ทุกคนจำชื่อ "น้องเป้ง" และชื่อทีมฟุตบอลหญิง "ชบาแก้ว" ได้


อ่านเพิ่มเติม : ข่าวด่วน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้