สาธิตลั่น “ชวน” ไม่เดียวดาย ปลุก ปชป.ทวงถาม ปม 16 สส.


สาธิตลั่น “ชวน” ไม่เดียวดาย ปลุก ปชป.ทวงถาม ปม 16 สส. วันนี้ (25 ส.ค.) นายสาธิต วงศ์หนองเตย

ส.ส.ตรังหลายต่อหลายครั้งเปิดสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

ความขัดแย้งระหว่างสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงคะแนนให้นายเศรษฐา ทวีสิน

ของพรรคเพื่อไทย คือ นายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์

นายชวน ลิไป ซึ่งลุกขึ้นยืนแสดงความเห็นแตกต่างในเวลานี้ 


นี่คือการแสดงให้เห็นวิกฤติของประชาชนในพรรคประชาธิปัตย์ ก่อตั้งมายาวนานถึง 77 ปี ​​โดยเฉพาะเป็นองค์กรวินัยของพรรคโดยเฉพาะสมาชิกพรรคที่มีแนวปฏิบัติแบบเดิม ๆ มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนภายในพรรค เรายังคงรักษาแนวปฏิบัตินี้มาโดยตลอด อย่างที่คุณเห็น ในรอบ 77 ปีที่ผ่านมา ไม่มีพรรคการเมืองใดเคยลงมติ แต่ ส.ส. กลับลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับมติของพรรคในรัฐสภา แต่คราวนี้ ส.ส. มากกว่าร้อยละ 80 ลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับมติของพรรค ส.ส. จากกลุ่มของตนเอง


นางสาวสุณัชชา โลสถาพรพิศ ส.ส.ตรัง ออกมาเป็นวิทยากรในที่ประชุม ส.ส. ชี้แจงอย่างชัดเจน แต่การลงมติคัดค้านมติพรรคให้นายเศรษฐา ทวีสินจากพรรคคู่แข่งกลับกลายเป็นความเคลื่อนไหวให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็ไว้วางใจผู้นำพรรคให้ดำเนินการต่อไป แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวโดยละเอียดและชี้แจงให้ประชาชนทราบ 


เหตุผลในการลงคะแนน คะแนนการอนุมัติ แหล่งข่าว รวมถึงข่าวข้อตกลงลับ และพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีฮ่องกงทั้ง 16 คน รวมถึงในวันเลือกตั้งว่าทำไมต้องรวมกลุ่มคนนอกการประชุมสภาเพื่อพูดคุยเรื่องอะไร เห็นด้วยกับอะไร ฯลฯ ดูสถานการณ์บางอย่าง เป็นอย่างไรและกลับมาบอกชื่อพรรคประชาธิปัตย์คนไหนทั่วประเทศรอผลสอบ งงมาก


นายสาธิตยังกล่าวอีกว่าในที่สุดเมื่อวันที่ 24 ส.ค. กลุ่ม ส.ส. จำนวน 16 คน ได้เพิ่มจำนวนเป็น 20 คน และนายเดชอิท ขาวทอง ส.ส.จังหวัดสงขลา แถลงข่าวในฐานะผู้นำกลุ่ม เขาและสมาชิกปาร์ตี้อีกหลายคนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นคำพูดของคนรุ่นใหม่ ทำงานหนักเพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ขอถามอีกครั้ง ทีมงานนายเดชา มีทั้ง ส.ส.ใหม่สมัยแรก และ ส.ส.รุ่นเก่า ๆ มากมาย พรรคที่ไม่ตกลงเข้าร่วมรัฐบาลได้เลือกนายเศรษฐา นำโดยนายชวน หลีกภัย 


ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายบัญญัติ นอร์ตัน ที่ปรึกษาพรรค ไม่ใช่แค่คนเฒ่าที่ถูกมองว่าเป็นพรรคพวกที่มีส่วนร่วมกับพรรคมายาวนานเพราะยังมี ส.ส. ใหม่ที่ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลและเห็นพ้องว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ทบทวนตัวเอง และฟื้นฟูพรรคให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน รวมถึงสมาชิกพรรคไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ แม้จะไม่ใช่ ส.ส. แต่ก็เป็นเจ้าของพรรค ดังนั้นจึงไม่มีข้อตกลงที่จะแยกแยะว่าเวอร์ชั่นเก่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือไม่ ดังนั้นมันจึงไม่เป็นความจริง


“เป็นพรรคของทุกคนมาตลอด 77 ปี ​​ไม่เคยมีใครเป็นเจ้าของมาก่อน ไม่เคยเป็นพรรคใด แต่ในยุคนี้ ถ้าเพื่อประโยชน์ของพรรคก็มีตาข่ายก็มีกลุ่ม” โดยรวมโอเค แต่วันนี้ใครอ้างว่าต้องลงคะแนนให้เพื่อไทยเพื่อให้ประเทศอยู่ต่อไป ไม่ได้ยิน ในทางการเมืองจะเป็นการลงคะแนนเสียงเพื่อกรอกบัตรลงคะแนนเผื่อน้ำท่วมจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่วันที่ 16 ส.ส.ทั้ง 16 คนก็ล้นหลามอยู่แล้ว กล่าวเสริม หมายความว่าอย่างไร เจตนาคืออะไร เรื่องนี้ต้องชี้แจงให้สมาชิกพรรคทั้งสองฝ่ายทราบ และประชาชน เพราะมันกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของพรรค มันเป็น ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”


นายสาธิต กล่าวว่า การกล่าวสุนทรพจน์เช่นนี้จะไม่นับว่าไม่สืบทอดความโกรธแค้นของคนรุ่นก่อน ๆ เพราะมีรุ่นน้องทั้งสองฝ่าย คำถามในสังคมตอนนี้คือรัฐจะเดินหน้าต่อไปหรือจะมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่ เพื่อชี้แจงว่าเขาและอีกหลายคนเสียใจที่เราไม่เคยมีใครทอดแหเพื่อนับว่ามีกี่คน ส.ส. ไปแล้วหรือใครจะไล่ใครออกจากพรรคล่ะ เพราะเราอยู่กันแบบพี่น้องมองหน้ากันและรับฟังกัน และสิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของพรรคเพื่อยึดถือระบบการเมืองที่สืบทอดกันมายาวนานถึง 77 ปี


อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวด่วน


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้